จบไม่ตรงสาย ก็อาจทำงานได้ดีกว่า: สรรหาจาก Capability ไม่ใช่ Education Background

TalentSphere
November 6, 2025
5 min read

ในยุคที่ “ใบปริญญา” ไม่ใช่คำตอบของทุกอย่างอีกต่อไป การสรรหาคนเก่งสำหรับองค์กรจึงต้องเปลี่ยนจาก “ดูว่าจบจากไหน” มาเป็น “ดูว่าทำอะไรได้”


เพราะความสามารถ (Capability) ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ในกระดาษหนึ่งใบ แต่มันคือสิ่งที่บ่งบอกว่า “คนคนนี้พร้อมทำงานแค่ไหน” ทั้งในวันนี้และอนาคต

องค์กรระดับโลกจำนวนมากเริ่มเปิดรับ Cross-Industry Talent — คนที่อาจไม่ได้จบตรงสาย แต่มีสมรรถนะ (Capability) ที่ตอบโจทย์งาน เช่น

คนจบสายศิลป์ ที่เข้าใจพฤติกรรมมนุษย์ จึงออกแบบ UX ได้โดนใจในสาย Tech

ในบทความนี้ TalentSphere จะพาคุณมาดูว่า ทำไม “Capability Hiring” จึงเป็นอนาคตของการสรรหายุคใหม่

การสรรหายุคใหม่ จาก “Education Background” สู่ “สมรรถนะที่แท้จริง”

เมื่อก่อน คณะที่เรียนอาจเป็นเครื่องยืนยันความสามารถ เพราะโลกงานยังนิ่ง สายอาชีพมีเส้นทางชัดเจน


แต่ในวันนี้ ที่เทคโนโลยีหมุนเร็ว องค์กรต้องการคนที่ “เรียนรู้ไว ปรับตัวเก่ง และพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลง” — สมรรถนะเหล่านี้ไม่สามารถวัดได้จากคณะที่เรียนเพียงอย่างเดียว

💡 ตัวอย่างจากรายงานของ SpringerOpen

โดยเฉลี่ยประมาณ 40% ของแรงงาน อยู่ในสถานะ mismatched by field (จบสาขาหนึ่ง แต่ทำงานอีกสาขาหนึ่ง)

การสรรหาที่มองแค่ Education Background จึงอาจพลาดคนเก่งที่ “พร้อมทำงาน” มากกว่า
ในทางกลับกัน การมองผ่านเลนส์ Capability จะทำให้เห็นว่าใครมี “สมรรถนะที่แท้จริง” ที่สามารถเติบโตในบริบทขององค์กรคุณได้

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดนี้ได้ที่ ทำไมการสรรหายุคใหม่ต้องมองให้ลึกกว่าโปรไฟล์ แต่ต้องดูไปถึง Capability

ตัวอย่าง คนเก่งยุคใหม่ที่เปลี่ยนเส้นทางแต่ประสบความสำเร็จ

  1. คนจบสายศิลป์ อาจโดดเด่นในเรื่อง เทคโนโลยี (UX/UI Designer)
    • คนที่จบด้านศิลปะหรือจิตวิทยา เข้าใจอารมณ์และพฤติกรรมมนุษย์ดี
    • เมื่อนำมาประยุกต์กับเทคโนโลยี ทำให้สร้างประสบการณ์ผู้ใช้ (User Experience) ที่เข้าถึงใจคนได้ดีกว่านักเขียนโค้ดล้วนๆ
  2. คนจบสายวิศวกรรม อาจโดดเด่นในเรื่องธุรกิจ (Product Manager)
    • วิศวกรที่คิดเป็นระบบ และมีทักษะการแก้ปัญหาเชิงตรรกะ สามารถกลายเป็น Product Manager ที่เข้าใจทั้งเทคโนโลยีและกลยุทธ์ตลาด
  3. คนจบสายเศรษฐศาสตร์ อาจโดดเด่นในเรื่อง Data Analyst
    • การวิเคราะห์เชิงสถิติและเหตุผลจากเศรษฐศาสตร์ ทำให้เข้าใจการตีความข้อมูลเชิงธุรกิจได้แม่นยำ

ทำไม Capability ถึงสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสรรหาในปัจจุบัน

  1. บ่งบอกถึง “สมรรถนะจริง” ในการทำงาน
    • ใบปริญญาแสดงว่าคุณเคยเรียนอะไร แต่ Capability แสดงว่าคุณ “ทำอะไรได้”
  2. สะท้อน “อนาคต” ไม่ใช่แค่ “อดีต”
    • Performance Today ≠ Performance in New Role
    • Capability ช่วยให้เห็นว่าคนนี้มีแนวโน้มจะปรับตัวและเติบโตในบริบทใหม่ได้หรือไม่
  3. ลดความเสี่ยงในการจ้างผิด
    • เพราะ HR สามารถอ้างอิง “หลักฐานเชิงสมรรถนะ” แทนการตัดสินจาก Resume

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการสรรหาแบบใหม่ได้ใน Future-Ready Recruitment Checklist Template

TalentSphere เครื่องมือวัด Capability ยกระดับการสรรหาให้แม่นยำกว่าเดิม

ในยุคที่ “ข้อมูล” คือหัวใจของการตัดสินใจ TalentSphere ช่วยให้ทีมสรรหาสามารถ วัด Capability Score ได้ตรงบทบาทงาน (Role-based Competency)

  • ระบบ AI Prescreening ช่วยให้เห็ินสมรรถนะตั้งแต่ขั้นตอนแรก
  • HR และ Manager สามารถดู Fit & Potential Score ได้ตั้งแต่ Day 1
  • ลด Bias จากการตัดสินด้วยความรู้สึก และเพิ่มความแม่นยำในการคัดเลือก

TalentSphere ช่วยให้องค์กร “จ้างคนที่ทำได้จริง”

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ เคล็ดลับการหาคนเก่งให้เจอเร็วและตรงใจ


ถึงเวลาสรรหาจาก “สมรรถนะที่แท้จริง”

โลกของการทำงานไม่หยุดหมุน องค์กรที่ยังใช้กรอบเดิมๆ อาจพลาดคนเก่งที่พร้อมสร้างผลงานจริง
ในยุคของ Capability Hiring — HR, Recruiter และ Manager ต้องมองให้ลึกกว่าโปรไฟล์

เพราะในโลกที่เปลี่ยนเร็ว คนที่ “จบไม่ตรงสาย” แต่อยากเรียนรู้ อาจกลายเป็น “คนที่โตเร็วที่สุด” ในองค์กรคุณ

เริ่มต้นปรับกระบวนการสรรหาอย่างมีข้อมูลด้วย TalentSphere — AI Recruitment & Capability Assessment Tool ที่จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่า “คนที่คุณเลือก คือคนที่พร้อมทำงานจริง”

🔗 สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่